เปลี่ยนยางอะไหล่ เป็นยางสำรองที่ติดตั้งไว้สำหรับใช้ทดแทนยางที่เสียหายหรือยางที่หมดลม หากยางรถยนต์เกิดปัญหา เช่น ยางรั่วทําไง ยางแตก ยางบาด เป็นต้น จำเป็นต้องเปลี่ยนยางอะไหล่เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
การเปลี่ยน ยางอะไหล่ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ การเปลี่ยนยางรถยนต์ที่ถูกต้อง
สิ่งแรกที่ต้องทำคือจอดรถในที่ปลอดภัยและมั่นคง ห่างจากขอบทางอย่างน้อย 1 เมตร และห่างจากรถคันอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ควรใช้เกียร์จอดและเบรกมือเพื่อล็อกรถ
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ควรนำป้ายเตือนหรือไฟฉุกเฉินมาวางไว้ด้านหลังรถอย่างน้อย 20-30 เมตร
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนยางอะไหล่ ได้แก่ แม่แรง ประแจขันน็อตล้อ บล็อกถอดน็อตล้อ และยางอะไหล่
ใช้ประแจขันน็อตล้อและคลายน็อตล้อทั้งหมดให้หลวมๆ ก่อน โดยใช้วิธีการทวนเข็มนาฬิกา
ใช้แม่แรงยกรถขึ้นจนล้อที่มีปัญหาลอยขึ้นจากพื้น
ใช้บล็อกถอดน็อตล้อถอดน็อตล้อทั้งหมดออกแล้ว ถอดล้อ ที่มีปัญหาออก ถอดล้อรถยนต์หมุนทางไหน
ใส่ยางอะไหล่โดยขันน็อตล้อให้แน่นด้วยมือก่อน จากนั้นจึงใช้ประแจขันน็อตล้อให้แน่น
ใช้แม่แรงลดรถลง จากนั้นจึงขันน็อตล้อให้แน่นด้วยประแจขันน็อตล้ออีกครั้ง เปลี่ยนล้อรถยนต์
ยางอะไหล่รถเก๋ง การเปลี่ยนยางอะไหล่ควรดำเนินการในที่ปลอดภัย โดยควรจอดรถในที่ร่ม ห่างจากการจราจร วิธีเปลี่ยนยางรถยนต์ และควรสวมถุงมือและรองเท้านิรภัยเพื่อป้องกันอันตราย นอกจากนี้ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนยางอะไหล่ ถอดล้อรถยนต์
ล้ออะไหล่ การดูแลยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ การดูแลยางรถยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
ดอกยางเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยึดเกาะถนน หากดอกยางสึกหรอหรือเรียบเกินไป อาจทำให้รถเสียการยึดเกาะถนนได้ วิธีถอดล้อรถยนต์ ดอกยางที่เหมาะสมควรมีความลึกอย่างน้อย 1.6 มิลลิเมตร รีวิวยางรถยนต์
แนะนํายางรถยนต์ การเติมลมยางให้เหมาะสมจะช่วยให้ยางยึดเกาะถนนได้ดีและช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง ความดันลมยางที่เหมาะสมสามารถดูได้จากคู่มือการใช้งานรถ
การขับขี่บนถนนขรุขระอาจทำให้ยางเสียหายได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนขรุขระหากไม่จำเป็น
ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี ควรเปลี่ยนยางเมื่อยางหมดอายุการใช้งาน
ควรตรวจสอบสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติ เช่น ยางบวม ยางแตก หรือยางมีรอยบาด ควรนำรถไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการรถยนต์
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจได้ที่ : https://datahistorycar.com
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : ซ่อมเครื่องรถยนต์