datahistorycar.com

วิธีเติมน้ำยาแอร์รถยนต์

เติมน้ำยาแอร์รถยนต์ แอร์รถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญในการให้ความเย็นสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถ แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม น้ำยาแอร์เป็นสารประกอบสำคัญที่ทำให้แอร์รถยนต์ทำงานได้ โดยทำหน้าที่ดูดความร้อนออกจากอากาศภายในรถและปล่อยออกมาสู่ภายนอกรถ ทำให้อากาศภายในรถเย็นลง เติมน้ำยาแอร์

น้ำยาแอร์รถยนต์ จะค่อยๆ ลดลงตามการใช้งาน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ใหม่เป็นครั้งคราว การเติมน้ํายาแอร์รถยนต์ โดยปกติแล้วควรเติมน้ำยาแอร์ทุก ๆ 2 ปี หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แต่หากพบว่าแอร์รถยนต์เย็นน้อยลงกว่าเดิม ก็ควรรีบเติมน้ำยาแอร์ใหม่ วิธีเติมน้ํายาแอร์รถยนต์

การเติมน้ำยาแอร์รถยนต์

แอร์ไม่เย็นออกแต่ลมรถยนต์ สามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือใช้บริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญก็ได้ ในกรณีที่ต้องการเติมน้ำยาแอร์ด้วยตัวเอง สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้ การเติมน้ำยาแอร์รถยนต์

  1. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ได้แก่ ถังเติมน้ำยาแอร์ ชุดสายเชื่อมถังเติมน้ำยาแอร์ และเครื่องวัดความดัน
  2. ตรวจสอบชนิดของน้ำยาแอร์รถยนต์ที่ใช้ว่าใช้น้ำยาแอร์ชนิดใด โดยดูได้จากฉลากที่อยู่บริเวณท่อน้ำยาแอร์
  3. ถอดจุกยางออกที่บริเวณท่อน้ำยาแอร์ทั้งฝั่งสูง (High Side) และฝั่งต่ำ (Low Side)
  4. เชื่อมต่อสายเชื่อมถังเติมน้ำยาแอร์เข้ากับท่อน้ำยาแอร์ทั้งฝั่งสูงและฝั่งต่ำ
  5. เปิดถังเติมน้ำยาแอร์ และเริ่มเติมน้ำยาแอร์
  6. สังเกตระดับความดันของน้ำยาแอร์ โดยระดับความดันของน้ำยาแอร์ควรอยู่ระหว่าง 250-300 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
  7. เมื่อเติมน้ำยาแอร์จนพอดีแล้ว ให้ปิดถังเติมน้ำยาแอร์และถอดสายเชื่อมถังเติมน้ำยาแอร์
  8. ติดตั้งจุกยางกลับคืนที่บริเวณท่อน้ำยาแอร์ทั้งฝั่งสูงและฝั่งต่ำ

ข้อควรระวังในการเติมน้ำยาแอร์รถยนต์

  • ควรเลือกใช้น้ำยาแอร์รถยนต์ชนิดเดียวกับที่ใช้กับรถคันนั้น ๆ
  • ควรสวมถุงมือและแว่นตานิรภัยเพื่อป้องกันการสัมผัสกับน้ำยาแอร์
  • ไม่ควรเติมน้ำยาแอร์มากเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องแอร์ทำงานหนักและอาจเกิดความเสียหายได้

ชนิดของน้ำยาแอร์รถยนต์

เติมน้ํายาแอร์รถยนต์เอง น้ำยาแอร์รถยนต์ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ R-12 และ r134a โดย R-12 เป็นน้ำยาแอร์รุ่นเก่าที่ใช้มานานกว่า 50 ปี และปัจจุบันได้ถูกแทนที่ด้วย R-134a เนื่องจาก R-12 เป็นสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ

  • R-12 เป็นสารไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (CFC) ที่มีชื่อทางเคมีว่า dichlorodifluoromethane (CCl2F2) R-12 เป็นน้ำยาแอร์ที่มีราคาถูกและมีประสิทธิภาพสูง แต่เนื่องจากเป็นสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ จึงถูกห้ามใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535
  • R-134a เป็นสารไฮโดรคาร์บอน (HC) ที่มีชื่อทางเคมีว่า 1,1,1,2-tetrafluoroethane (CF3CH2F) R-134a เป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศ และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ R-12 จึงเป็นที่นิยมใช้แทน R-12 ในปัจจุบัน

วิธีตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์รถยนต์

เติมน้ำยาแอร์รถ ระดับน้ำยา แอร์รถ ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้แอร์รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระดับน้ำยาแอร์รถยนต์สามารถตรวจสอบได้โดยใช้เครื่องวัดความดันน้ำยาแอร์

ขั้นตอนการตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์รถยนต์มีดังนี้

  1. สตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดแอร์รถยนต์
  2. เชื่อมต่อสายวัดความดันน้ำยาแอร์เข้ากับท่อน้ำยาแอร์ฝั่งสูง (High Side) และฝั่งต่ำ (Low Side)
  3. อ่านระดับความดันน้ำยาแอร์จากเครื่องวัดความดันน้ำยาแอร์

ระดับความดันน้ำยาแอร์รถยนต์ที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 250-300 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หากระดับความดันน้ำยาแอร์ต่ำกว่า 250 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แสดงว่าแอร์รถยนต์ขาดน้ำยาแอร์ และจำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์

วิธีไล่อากาศออกจากระบบแอร์รถยนต์

การไล่อากาศออกจากระบบแอร์รถยนต์มีความสำคัญในการเติม น้ำยาแอร์รถ ให้มีประสิทธิภาพ โดยอากาศในระบบแอร์รถยนต์จะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน ทำให้แอร์รถยนต์เย็นได้น้อยลง ที่เติมน้ำยาแอร์

ขั้นตอนในการไล่อากาศออกจากระบบแอร์รถยนต์มีดังนี้

  1. เชื่อมต่อสายวัดความดันน้ำยาแอร์เข้ากับท่อน้ำยาแอร์ฝั่งสูง (High Side) และฝั่งต่ำ (Low Side)
  2. เปิดถังเติมน้ำยาแอร์ และเริ่มเติมน้ำยาแอร์
  3. เมื่อเติมน้ำยาแอร์จนพอดีแล้ว ให้ปิดถังเติมน้ำยาแอร์และถอดสายวัดความดันน้ำยาแอร์
  4. สตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดแอร์รถยนต์
  5. ปรับระดับความเย็นของแอร์รถยนต์ไปที่ระดับสูงสุด
  6. ขับรถด้วยความเร็วอย่างน้อย 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที

ในระหว่างที่ขับรถอยู่ ให้สังเกตระดับความดันน้ำยาแอร์จากเครื่องวัดความดันน้ำยาแอร์ หากระดับความดันน้ำยาแอร์เพิ่มขึ้น แสดงว่ายังมีอากาศอยู่ในระบบแอร์รถยนต์อยู่ ให้เติมน้ำยาแอร์เพิ่มอีกจนกว่าระดับความดันน้ำยาแอร์จะคงที่

วิธีล้างแอร์รถยนต์

การล้างแอร์รถยนต์ควรทำทุก ๆ 2 ปีหรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร เพื่อให้แอร์รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

การล้างแอร์รถยนต์สามารถทำได้โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ โดยช่างจะทำการถอดตู้แอร์รถยนต์ออกมาล้างทำความสะอาดภายในตู้แอร์ รวมถึงล้างท่อน้ำยาแอร์และคอยล์เย็น

การล้างแอร์รถยนต์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในระบบแอร์รถยนต์ ทำให้แอร์รถยนต์เย็นขึ้น และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เติมน้ำยาแอร์ราคารถยนต์

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจได้ที่ : https://datahistorycar.com

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : ซ่อมแอร์รถยนต์