หม้อน้ำรถยนต์ กับเทคนิคดูแลที่ไม่ต้องไปง้อ อู่ซ่อมรถ

หม้อน้ำรถยนต์

หม้อน้ำรถยนต์ และระบบของเหลวของรถยนต์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของเครื่องยนต์ หม้อน้ำทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ โดยน้ำหล่อเย็นจะไหลเวียนผ่านหม้อน้ำและดูดซับความร้อนจากเครื่องยนต์ จากนั้นน้ำหล่อเย็นจะถูกส่งไปยังหม้อน้ำอีกครั้งเพื่อระบายความร้อนออก

หากหม้อน้ำหรือระบบของเหลวทำงานไม่ถูกต้อง อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลรักษาหม้อน้ำและระบบของเหลวอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษาหม้อน้ำ

หม้อน้ำรถยนต์

การดูแลรักษาหม้อน้ำ

  • ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ โดยควรอยู่ในระดับที่กำหนดไว้ที่หม้อน้ำ
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นทุก ๆ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
  • ทำความสะอาดรังผึ้งหม้อน้ำเป็นประจำ เพื่อไม่ให้อุดตัน

การดูแลรักษาระบบของเหลว

การดูแลรักษาระบบของเหลว

  • ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ โดยควรอยู่ในระดับที่กำหนดไว้ที่ก้านวัดน้ำมันเครื่อง
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร
  • ตรวจสอบระดับน้ำฉีดกระจกหน้าเป็นประจำ โดยควรอยู่ในระดับที่กำหนดไว้ที่ถังน้ำฉีดกระจกหน้า
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำฉีดกระจกหน้าทุก ๆ ปี
  • ตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็นเบรกเป็นประจำ โดยควรอยู่ในระดับที่กำหนดไว้ที่ถังพักน้ำยาหล่อเย็นเบรก
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นเบรกทุก ๆ 2 ปี

นอกจากนี้ ควรตรวจเช็กหม้อน้ำและระบบของเหลวเป็นประจำ โดยสังเกตอาการผิดปกติ เช่น น้ำหล่อเย็นรั่วซึม เครื่องยนต์ร้อนจัด หรือมีเสียงดังจากหม้อน้ำ หากพบอาการผิดปกติ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กและแก้ไขโดยเร็ว

เคล็ดลับการดูแลรักษาหม้อน้ำและระบบของเหลว

  • หลีกเลี่ยงการขับรถลากจูงหรือบรรทุกของหนัก เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและร้อนจัด
  • ตรวจเช็กหม้อน้ำและระบบของเหลวบ่อยครั้งยิ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะอุณหภูมิอากาศที่สูงจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดได้ง่ายกว่า
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นโดยใช้น้ำหล่อเย็นที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับเครื่องยนต์

การดูแลรักษาหม้อน้ำและระบบของเหลวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้

อาการหม้อน้ำพังหรือใช้งานต่อไม่ได้เป็นอย่างไร

หม้อน้ำเสีย หมายถึง หม้อน้ำไม่สามารถทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ได้

อาการหม้อน้ำเสีย โดยทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

1. หม้อน้ำรั่วซึม

อาการที่บ่งบอกว่าหม้อน้ำรั่วซึม ได้แก่

  • พบคราบน้ำหล่อเย็นที่ไหลอยู่ตามพื้น
  • ไฟเตือนความร้อนขึ้นที่หน้าปัด
  • แอร์รถไม่เย็น
  • เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ เช่น เร่งไม่ขึ้น หรือเร่งแล้วสะดุด

2. หม้อน้ำอุดตัน

อาการที่บ่งบอกว่าหม้อน้ำอุดตัน ได้แก่

  • เครื่องยนต์ร้อนจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • ไฟเตือนความร้อนขึ้นที่หน้าปัด
  • เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ เช่น เร่งไม่ขึ้น หรือเร่งแล้วสะดุด

หากพบอาการเหล่านี้ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กและแก้ไขโดยเร็ว

สาเหตุของหม้อน้ำเสีย

สาเหตุของหม้อน้ำเสีย มีหลายประการ ได้แก่

  • หม้อน้ำเก่าและชำรุด
  • ท่อยางหม้อน้ำแตกหรือรั่ว
  • ฝาหม้อน้ำชำรุด
  • รังผึ้งหม้อน้ำอุดตัน
  • น้ำหล่อเย็นหมดหรือคุณภาพไม่ดี
หม้อน้ำรถยนต์

วิธีป้องกันหม้อน้ำเสีย

วิธีป้องกันหม้อน้ำเสีย สามารถทำได้ดังนี้

  • ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ โดยควรอยู่ในระดับที่กำหนดไว้ที่หม้อน้ำ
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นทุก ๆ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
  • ทำความสะอาดรังผึ้งหม้อน้ำเป็นประจำ เพื่อไม่ให้อุดตัน
  • หลีกเลี่ยงการขับรถลากจูงหรือบรรทุกของหนัก เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและร้อนจัด
  • ตรวจเช็กหม้อน้ำและระบบของเหลวบ่อยครั้งยิ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะอุณหภูมิอากาศที่สูงจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดได้ง่ายกว่า
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นโดยใช้น้ำหล่อเย็นที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับเครื่องยนต์

สรุปเรื่องการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์คือการหมั่นตรวจสอบระดับของหม้อน้ำและจุดรอยรั่วต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะหม้อน้ำคือ 1 ในส่วนสำคัญของตัวรถที่ประมาทที่จะไม่ดูแลไม่ได้ เพราะการเสียของหม้อน้ำจะส่งผลไปยังเครื่องยนต์ด้วยเพราะฉะนั้นไม่ควรละเลยในเรื่องนี้

 

 

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม : ดูแลรถยนต์